
วิธีซักผ้าขนหนูแบบถูกวิธี ให้นุ่ม ให้หนู
David & MaryShare
ผ้าขนหนูเป็นของใช้ที่ทุกคนต้องมี แต่บางครั้งเราอาจไม่ทราบว่าวิธีซักผ้าขนหนูอย่างถูกต้องที่จะทำให้ผ้าขนหนูสะอาด นุ่มสบาย และที่สำคัญคือ หอมเสมอ! ต้องทำอย่างไร วันนี้ David & Mary จะมาแนะนำวิธีซักผ้าขนหนูแบบถูกวิธีให้กับเพื่อนบ้านทุกคน ไปดูกัน!
1. การเตรียมผ้าขนหนูก่อนซัก
ก่อนที่เราจะเริ่มซักผ้าขนหนู เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมผ้าขนหนูให้พร้อมสำหรับการซัก เพื่อให้การซักผ้าขนหนูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาคุณภาพของผ้าไว้ได้นาน การแยกผ้าตามสีและประเภทของผ้าขนหนูจะช่วยป้องกันการเกิดรอยเปื้อนและการเสียหายของเนื้อผ้า
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบป้ายคำแนะนำบนผ้าขนหนูเพื่อดูวิธีการซักที่ถูกต้อง เนื่องจากผ้าขนหนูแต่ละประเภทมีข้อกำหนดการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยรักษาความนุ่มและความคงทนของผ้าขนหนู
คัดแยกชนิดของผ้าขนหนูและการเตรียมก่อนซัก
การรู้จักกับชนิดของผ้าขนหนูและการเตรียมก่อนซักจะช่วยให้การดูแลผ้าขนหนูเป็นไปอย่างเหมาะสม และยืดอายุการใช้งานของผ้าขนหนูให้ยาวนานขึ้น ทั้งนี้การเตรียมผ้าขนหนูให้ถูกต้องยังช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นอับและการสะสมของแบคทีเรียได้อีกด้วย
David & Mary ขอแยกชนิดของผ้าที่มักจะถูกใช้ทำเป็นผ้าขนหนู ดังนี้
ผ้าขนหนูผ้าฝ้าย (Cotton Towels)
ผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่นุ่มสบายและดูดซับน้ำได้ดี ดังนั้นหากต้องการซักผ้าฝ้ายให้มีประสิทธิภาพ ควรซักผ้าฝ้ายในน้ำอุ่นและใช้ผงซักฟอกที่อ่อนโยน
ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ (Microfiber Towels)
ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี และแห้งเร็ว ดังนั้นเราควรซักผ้าชนิดนี้ในน้ำเย็น หรือน้ำอุ่น และที่สำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
ผ้าขนหนูผ้าแบมบู (Bamboo Towels)
ผ้าขนหนูแบมบูมีความนุ่มพิเศษและเป็นธรรมชาติ ควรซักในน้ำเย็นและหลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกที่มีสารเคมีรุนแรง
2. ขั้นตอนการซักผ้าขนหนู
การซักผ้าขนหนูให้ถูกวิธีไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผ้าขนหนูสะอาดสดชื่น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าขนหนูได้อีกด้วย เราควรปฏิบัติตามขั้นตอนการซักที่เหมาะสมและไม่ข้ามขั้นตอนสำคัญๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีแช่ผ้าขนหนูก่อนซัก
ควรแช่ผ้าขนหนูในน้ำอุ่นผสมน้ำยาซักผ้าก่อนนำไปซักเพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น มักแนะนำให้แช่กับน้ำส้มสายชูก่อนซัก เพื่อซักล้างความอับของผ้าออก
วิธีเลือกใช้น้ำยาซักผ้า
การเลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่เหมาะสมมีความสำคัญมากในการดูแลผ้าขนหนู น้ำยาซักผ้าที่ดีไม่เพียงแต่จะทำให้ผ้าขนหนูสะอาดและหอมสดชื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาคุณภาพและความนุ่มของผ้าให้คงทนไปนานๆ ด้วย
เลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
การเลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่ไม่มีสารเคมีรุนแรงจะช่วยปกป้องผิวของเราจากการระคายเคือง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะน้ำยาซักผ้าที่อ่อนโยนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผื่นแพ้และอาการคันได้
หลีกเลี่ยงน้ำยาฟอกขาว เพราะอาจทำให้เนื้อผ้าขนหนูเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
น้ำยาฟอกขาวมีคุณสมบัติในการทำลายคราบสกปรกและเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกันมันสามารถทำลายเส้นใยของผ้าขนหนูได้ด้วย เพราะในน้ำยาฟอกขาวมีส่วนผสมของคลอรีนที่สามารถทำให้เส้นใยผ้าเสื่อมสภาพ แห้ง และแตกง่ายได้นั่นเอง ทำให้ผ้าขนหนูสูญเสียความนุ่มและอายุการใช้งานสั้นลง การใช้น้ำยาฟอกขาวบ่อยครั้งยังสามารถทำให้ผ้าขนหนูสีซีดและเกิดคราบเหลืองได้อีกด้วย
การใช้ปริมาณน้ำยาซักผ้าที่เหมาะสม
การใช้น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพสูงสุดและไม่ทำให้ผ้าเหนียวหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าประมาณ 1 ฝา (ตามที่แนะนำบนฉลาก) ต่อน้ำประมาณ 10 ลิตร หรือประมาณ 1 ฝาต่อน้ำหนักผ้า 5 กิโลกรัม
และสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า เนื่องจากเครื่องซักผ้าฝาหน้ามักใช้น้ำน้อยกว่า แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าประมาณครึ่งฝา ต่อน้ำหนักผ้า 5 กิโลกรัม หรือตามที่แนะนำบนฉลาก
ดังนั้นการใช้น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยให้ผ้าขนหนูสะอาดและรักษาคุณภาพของผ้าได้นานๆ
การตั้งอุณหภูมิ
การตั้งอุณหภูมิของน้ำในการซักผ้าขนหนูมีความสำคัญมาก เพราะอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมจะช่วยให้ผ้าขนหนูสะอาดและรักษาคุณภาพของผ้าได้ดี
การใช้น้ำเย็นในการซักผ้าขนหนู (Cold Water)
เหมาะสำหรับผ้าขนหนูที่ทำจากเส้นใยละเอียดและบาง เช่น ผ้าไหม หรือผ้าฝ้ายบาง เนื่องจากน้ำเย็นช่วยป้องกันการหดตัวและรักษาสีของผ้า
การใช้น้ำอุ่นในการซักผ้าขนหนู (Warm Water)
เหมาะสำหรับผ้าขนหนูทั่วไป เช่น ผ้าฝ้ายหนา หรือผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ น้ำอุ่นจะช่วยขจัดคราบสกปรกและแบคทีเรียได้ดี และยังช่วยรักษาความนุ่มของผ้า
การใช้น้ำร้อนในการซักผ้าขนหนู (Hot Water)
เหมาะสำหรับผ้าขนหนูที่มีคราบสกปรกหนัก หรือผ้าขนหนูที่ใช้ในครัวเรือนและต้องการการฆ่าเชื้อโรค น้ำร้อนจะช่วยทำลายแบคทีเรียและคราบน้ำมัน แต่ควรระวังในการใช้กับผ้าขนหนูที่ทำจากเส้นใยละเอียด เพราะอาจทำให้ผ้าหดหรือเสียรูปทรงได้
การตั้งอุณหภูมิของน้ำซักให้เหมาะสมจะช่วยให้การซักผ้าขนหนูมีประสิทธิภาพสูงสุด และรักษาคุณภาพของผ้าให้อยู่ในสภาพดีได้นานๆ
วิธีอบแห้งผ้าขนหนู
การอบแห้งผ้าขนหนูเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม การอบแห้งอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย และทำให้ผ้าขนหนูคงความนุ่มนวลไว้ได้ แต่ต้องตั้งอุณหภูมิอบผ้าที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนสูง
เพราะการใช้ความร้อนสูงเกินไปในการอบผ้าอาจทำให้เส้นใยผ้าขนหนูหดตัว และทำให้ผ้าเสียความนุ่มนวล ดังนั้นเราจึงควรตั้งอุณหภูมิอบผ้าให้อยู่ในระดับปานกลาง (Medium) หรือระดับต่ำ (Low) เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าเสียหายจากความร้อนสูง และยังช่วยรักษาความนุ่มของผ้าได้ดีอีกด้วย
ไปดูกันว่าผ้าแต่ละชนิด ต้องตั้งอุณหภูมิในการอบยังไงบ้าง
ผ้าขนหนูคอตตอน (Cotton)
ผ้าขนหนูคอตตอนสามารถทนต่อความร้อนสูงได้ แต่เพื่อรักษาความนุ่มนวล ควรอบที่อุณหภูมิระดับปานกลาง (Medium)
ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ (Microfiber)
ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ควรอบที่อุณหภูมิระดับต่ำ (Low) เพื่อป้องกันการหดตัวและรักษาความนุ่มนวล
ผ้าขนหนูแบมบู (Bamboo)
ผ้าขนหนูแบมบูควรอบที่อุณหภูมิระดับต่ำ (Low) เนื่องจากเนื้อผ้าบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการเสียหาย
การตั้งอุณหภูมิในการอบผ้าอย่างเหมาะสมจะช่วยรักษาคุณภาพและความนุ่มของผ้าขนหนูให้นานยิ่งขึ้น
และอย่าลืมใส่ลูกบอลอบผ้าหรือลูกเทนนิสลงไปในเครื่องอบผ้าจะช่วยให้ผ้าแห้งได้อย่างทั่วถึงและเพิ่มความนุ่มของผ้านั่นเอง
3. การเก็บรักษาผ้าขนหนู
การเก็บรักษาผ้าขนหนูอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและคงความนุ่มสบายไว้ได้นาน การเก็บในที่ที่มีอากาศถ่ายเทและแห้งจะช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นอับและการสะสมของเชื้อรา
การเก็บในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท
ควรเก็บผ้าขนหนูในที่ที่มีการระบายอากาศดีและไม่อับชื้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเก็บผ้าขนหนูในพื้นที่อับชื้น เช่น ห้องน้ำ หรือห้องเก็บของที่ไม่มีการระบายอากาศ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการเก็บผ้าขนหนูในที่ที่มีแสงแดดโดยตรงอีกด้วย เพราะอาจจะทำให้ผ้าขนหนูมีสีซีดจางและทำให้เส้นใยผ้าได้รับความเสียหายได้อีกด้วย
การใช้ถุงเก็บผ้าขนหนูหอม
การใช้ถุงเก็บผ้าขนหนูหอมจะช่วยให้ผ้าขนหนูคงกลิ่นหอมนานยิ่งขึ้น ควรเลือกถุงเก็บผ้าขนหนูที่ทำจากวัสดุที่มีการระบายอากาศได้ดี เช่น ถุงผ้าฝ้าย หรือ ถุงผ้าลินิน เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้น รวมไปถึงการใส่กลิ่นหอมลงในถุงเก็บผ้า ก็ยังสามารถทำให้ผ้าขนหนูคงกลิ่นหอมได้นานยิ่งขึ้น
การซักผ้าขนหนูให้ถูกวิธีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่เหมาะสม ใช้ขั้นตอนการซักที่ถูกต้อง และดูแลผ้าขนหนูหลังการซักอย่างเหมาะสม วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้ผ้าขนหนูของคุณสะอาด นุ่มสบาย และใช้งานได้นาน