
เลี่ยงการแพ้น้ำยาล้างจาน: รู้สาเหตุ สังเกตอาการ หาวิธีป้องกัน
David & MaryShare
การล้างจานเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่หลายคนทำเป็นประจำ และหลายๆ คนก็คงเคยมือพังมือลอกเพราะน้ำยาล้างจานมานักต่อนัก วันนี้ David & Mary จะมาทำความเข้าใจกันว่า สาเหตุและอาการของการแพ้น้ำยาล้างจานมีอะไรบ้าง รวมถึงบอกวิธีป้องกัน และการเลือกใช้น้ำยาล้างจานที่ปลอดภัยอ่อนโยนต่อผิว
สาเหตุของการแพ้น้ำยาล้างจาน
การแพ้น้ำยาล้างจานมักมีสาเหตุมาจากสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในน้ำยาล้างจาน บางสารเคมีเหล่านี้มีคุณสมบัติทำให้พื้นผิวของภาชนะต่างๆ ที่เราล้างมีความสะอาด แต่ในทางกลับกันก็อาจส่งผลทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้นั่นเอง
สารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง
David & Mary ขอพาไปดูว่า แล้วสารเคมีไหนบ้าง ที่เราต้องจับตาระวังกันบ้าง ไปดูกันเลย!
SLS (Sodium Lauryl Sulfate)
SLS เป็นสารลดแรงตึงผิวที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้เกิดฟอง และขจัดคราบไขมัน แต่เนื่องจากสาร SLS นี้เป็นตัวขจัดไขมันที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้มันขจัดเอาไขมันที่อยู่บนผิวของคนเราไปด้วย ทำให้ชั้นป้องกันผิวหนังของเราถูกทำลาย ส่งผลทำให้ผิวเราแห้งและเกิดอาการระคายเคืองได้
SLES (Sodium Laureth Sulfate)
SLES ก็เป็นสารลดแรงตึงผิวเช่นเดียวกับ SLS แต่อ่อนโยนต่อผิวคนเรามากกว่า SLS นิดหน่อย เพราะมีการผ่านกระบวนการเอทอกซิเลชั่น (Ethoxylation) แต่ก็ยังคงสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้อยู่ดี และนอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสารตกค้างเช่น 1,4-Dioxane ที่เป็นอันตรายอีกด้วย
Parabens (สารกันเสีย)
พาราเบน หรือสารกันเสียนี้ใช้เพื่อยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีคุณสมบัติป้องกันการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆ
อย่างไรก็ตามมีงานวิจัยบางชิ้นที่เชื่อมโยง Parabens นี้กับความเสี่ยงต่อการเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ถึงแม้ว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะยังไม่ชัดเจนทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามพาราเบนสามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังและสะสมในร่างกายของเราได้ เพราะฉะนั้นหากใช้สารนี้ในปริมาณมากหรือเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้
Formaldehyde (ฟอร์มาลดีไฮด์)
ฟอร์มาลดีไฮด์ส่วนมากถูกใช้เป็นสารกันเสีย ซึ่งฟอร์มาลดีไฮด์นี้เองเป็นสารก่อมะเร็งที่ได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียบร้อยแล้ว ว่าเป็นสารที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็ง โดยสารนี้สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างรุนแรงได้เมื่อสัมผัส และยังสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ตา และผิวหนัง รวมถึงสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้และผื่นแดงเมื่อสัมผัสกับผิวหนังได้ด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ต่อไปจะเลือกซื้อน้ำยาล้างจาน หรือเคมีภัณฑ์ใดๆ ที่จะมาสัมผัสโดนร่างกายของเรา หรือคนในครอบครัว David & Mary แนะนำให้หลีกเลี่ยง 4 สารนี้อย่างเด็ดขาด เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในบ้าน
อาการของการแพ้น้ำยาล้างจาน
หลายคนมักพบเจอการแพ้น้ำยาล้างจานจนเป็นเรื่องปกติที่ไม่ควร ซึ่งโดยทั่วไปส่วนมากจะเจออาการหลักๆ กันอยู่ 5 อาการ
1. ผื่นแดงและคัน
การสัมผัสกับน้ำยาล้างจานที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น SLS หรือ SLES อาจทำให้เกิดผื่นแดงและอาการคันที่ผิวหนัง สารเหล่านี้สามารถทำลายชั้นป้องกันของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังระคายเคืองและเกิดอาการคัน
2. ผื่นแห้งและแตก
สารเคมีในน้ำยาล้างจาน เช่น SLS และ SLES มีคุณสมบัติในการขจัดไขมัน ซึ่งไม่เพียงแค่ขจัดคราบไขมันบนจาน แต่ยังขจัดไขมันธรรมชาติบนผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวหนังจึงแห้งและแตกง่าย
3. อาการแสบและบวม
ในบางกรณี การแพ้น้ำยาล้างจานอาจทำให้เกิดอาการแสบและบวมที่ผิวหนัง อาการแสบเกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังที่สัมผัสกับสารเคมีรุนแรง ส่วนอาการบวมอาจเกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ ซึ่งร่างกายตอบสนองต่อสารเคมีที่เข้ามากระตุ้น
4. อาการผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis)
อาการผื่นแพ้สัมผัสเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อย เมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น SLS, SLES หรือ Parabens อาการนี้สามารถทำให้เกิดผื่นแดง คัน และผิวหนังลอก อาการอาจเกิดขึ้นทันทีหลังการสัมผัส หรืออาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันจึงจะปรากฏ
5. อาการแพ้ระยะยาว
การสัมผัสกับน้ำยาล้างจานที่มีสารเคมีรุนแรงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดอาการแพ้ระยะยาว ซึ่งรวมถึงการเสื่อมสภาพของผิวหนัง การเกิดริ้วรอยก่อนวัย และความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง
อย่างไรก็ตาม การรู้จักและเข้าใจอาการเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถป้องกันและดูแลผิวหนังได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
วิธีป้องกันและการดูแลเมื่อเกิดอาการแพ้
หากเจออาการแพ้ สิ่งที่ต้องรีบทำก็คือการดูแลรักษาผิวมือของเราให้กลับมาสุขภาพดีดังเดิม และแน่นอนว่าควรหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ขึ้นอีก ดังนั้น David & Mary ขอแนะนำทุกคน ต่อไปนี้
เลือกใช้น้ำยาล้างจานที่อ่อนโยนต่อผิว
แนะนำให้เลือกใช้น้ำยาล้างจานที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง หรือก็คือดูข้างขวดแล้วเลี่ยงไม่ใช้แบรนด์ไหนก็ตามที่มีส่วนประกอบของ SLS, SLES หรือพวก Parabens
หรือถ้าไม่อยากคิดมาก พลิกดูองค์ประกอบตัวเล็กจิ๋วให้ปวดหัว เราก็แนะนำว่าน้ำยาล้างจาน David & Mary ของเราถูกสร้างสรรค์มาเพื่อตอบโจทย์เรื่องนี้เป็นหลัก โดยเรื่องถนอมมือนั้นเป็นโจทย์ในการคิดค้นสูตรขึ้นมาเลยก็ว่าได้ เราจึงเลือกใช้สารลดแรงตึงผิวจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว ใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
ดังนั้นใช้น้ำยาล้างจานถนอมมือ หอมตอนล้าง สะอาดตอนใช้ ของ David & Mary ปลอดภัยแน่นอน
สวมถุงมือขณะล้างจาน
นอกจากการเลือกน้ำยาล้างจานที่ตอบโจทย์ ไม่มีสารอันไม่พึงประสงค์แล้ว สำหรับใครที่มีอาการแพ้ได้ง่าย เราก็ขอแนะนำให้ลองหาถุงมือยางมาสวมใส่ป้องกันการสัมผัสกับน้ำยาหรือสารเคมีต่างๆ ขณะล้างจานก็ได้เช่นเดียวกัน
การดูแลผิวหลังล้างจาน
และที่สำคัญ การล้างจานไม่ว่าจะใช้น้ำยาล้างจานที่มีส่วนประกอบอ่อนโยนมากเพียงใด มันก็ยังเป็นการสัมผัสโดนสารเคมีอยู่ดี เพราะฉะนั้น David & Mary เราแนะนำให้ทุกคนใช้ครีมบำรุงผิวหลังการล้างจานทุกครัง เพื่อลดความแห้งและการระคายเคืองที่อาจะเกิดขึ้นได้ สามารถอ่านรายละเอียดลิสต์ครีมบำรุงรักษาสำหรับผิวหนังให้สุขภาพดีเพิ่มเติมได้ที่: xxx
การเข้าใจสาเหตุและอาการของการแพ้น้ำยาล้างจาน หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงไม่ใช้สารที่เป็นอันตราย ทำการป้องกัน และดูแลผิวได้ดียิ่งขึ้น อย่าลืมเลือกใช้น้ำยาล้างจานที่ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว เพื่อสุขภาพที่ดีของมือและผิวหนังของทุกคนในครอบครัวนะ!